วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เพื่อนสนิท


... เพื่อนสนิท

... ก็ คือ

เพื่อนธรรมดาๆคนนึง ที่ดันสนิทกัน มากกว่าเพื่อนธรรมดาๆทั่วๆไป
... ซึ่ง มันก็ต้องมีอะไรหลายๆอย่าง
ที่คล้ายๆกับเรามากกว่า เพื่อนคนอื่น
... ถึง จะมาสนิทกันได้
... บาง ที อาจ ไม่ใช่นิสัย
... บาง ที อาจ ไม่ใช่หน้าตา
... บาง ที อาจ ไม่ใช่ฐานะ
... บาง ที อาจ ไม่ใช่ระดับความรู้
... แต่ มันอาจจะมีอะไรบางอย่าง ที่ต้องเป็น มั น ค น นี้ เ ท่ า นั้ น ที่ มี
... บาง ครั้ง
... เรา ก็ไม่ไป ที่ ที่เราอยากไป
.. เพียง เพราะว่า มัน ไม่ไปด้วย
... บาง ครั้ง
... นั่ง เงียบอยู่ได้ตั้งนาน แต่ แค่เห็นหน้ามัน
... น้ำตา ที่กลั้นไว้แทบตาย กลับ ทะลักออกมาได้จนหมด
... บาง ครั้ง
... ถ้า มีเสียงหัวเราะของมันด้วย
... เรา จะหัวเราะได้ดังกว่านี้
... บาง ครั้ง
... ร้อย คำปลอบใจของใครก็ไม่รู้
... ยัง อุ่นใจไม่เท่ามือมันที่แค่ตบเบาๆที่หัวไหล่
บอกเป็นนัยๆว่า

กรู อยู่ตรงนี้
ชอบคำๆนึงที่ บอกว่า

. . . . . เ ร า ไ ม่ ไ ด้ เ ป็ น แ ค่ เ พื่ อ น . .
. . . แ ต่ เ ร า เ ป็ น ตั้ ง เ พื่ อ ; น ต่ า ง ห า ก . .
... เพราะ เพื่อนมีความสำคัญมากๆ
... มาก จนบางคนแยกไม่ออก เอา ไปเปรียบเทียบกะแฟนว่าอะไร สำคัญกว่ากัน

.. ทั้งๆ ที่มันคนละเรื่องกันเลย

... แต่ เมื่อเวลาที่เราอยู่ในห้วงของความรัก

... เพื่อน ... จะ กลายเป็นส่วนเกินของโลกส่วนตัวเราทันที

... ไอ่ เพื่อนสนิทผม มัน คงจะชินแล้ว

... ที่ เวลาผมมีรักทีไร ผม ก็จะห่างๆมันไปทุกที

... เวลา ที่จะกลับมานึกถึงมันได้อีกที

... ก็ ตอนอกหักนู่นแหละ

... ก็ เคยคิดเหมือนกันนะ

... ถ้า เราเป็นมัน จะ รู้สึกยังไง

... คง จะประมาณว่า

... ' แม่ง ... พอ มีแฟนก็ลืมเพื่อน '

... นี่ กะกรูไม่เคยช่วยห่ าไรเลย ที กะแฟนแมร่งแทบถวายหัว '

... ' ต้อง เลิกกะแฟนก่อนถึงจะจำเบอร์โทรกรูได้ใช่ไหม สราดดด '

... คิดๆ ดูแล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ

... เพราะ เวลาที่กำลังมีความสุขในห้วงของความรัก

... ก็ แทบไม่ได้จะไปเที่ยวไหนกับมันเลย

... นานๆ ถึงจะได้คุยกันที
... แต่ พอผิดหวัง พอ เจ็บตัวขึ้นมา

... นาที นั้นอยากกดโทรศัพท์ไปหามันก่อน

... อยาก ให้มันรับโทรศัพท์ก่อน

... ซึ่ง บางทีมันนอนไปแล้วผมก็จะไล่มันกลับไปนอน

... ไม่ ต้องตื่นขึ้นมาฟังเรื่องราวใดๆทั้งนั้น

... ไม่ รู้ทำไมเหมือนกัน แค่มันรับโทรศัพท์ ก็พอแล้ว
... แบบ นี้ละมั้งที่เค้าว่า

... ' เพื่อน

คือคนที่สามารถนั่งอยู่ด้วยกันโดยไม่พูดอะไร สักคำ '

... ' แต่ ลุกจากกันไปได้เหมือนคุยกันไปนับล้านคำ '

... ' เพื่อน '

... ' คือ คนที่เมื่อเราสุข เรา ไม่เห็นมันอยู่ในสายตา '

. . . ' แ ต่ เ ป็ น ค น ไ ม่ มี วั น ป ล่ อ ย ใ ห้ เ ร า ล้ ม ลง

ไ ม่ ว่ า เ ร า จ ะ ไ ป

เ จ็ บ ม าจ า ก ไ ห น . . .

....เงาของความคิดถึง....

....เงาของความคิดถึง....

ความคิดถึง "ใครคนหนึ่ง" อบอวลอยู่ในมวลอากาศรอบๆกาย.....รอบๆใจ

อานุภาพแห่ง "ความคิดถึง" มากมายจนเกินบรรยาย

"ความคิดถึง" เปลี่ยนโลกส่วนตัวของฉัน ให้เป็นสีชมพู
ได้เปิดประตูต้อนรับ "ใครคนหนึ่ง" เข้าสู่โลกของฉัน

เปลี่ยนโลกใบนั้นให้กลายเป็น "โลกแห่งความคิดถึง"

"ความ คิดถึง" แทรกซึมสู่ใจ ได้อาบอิ่มทุกช่วงขณะที่หายใจ สะท้านหวั่นไหว
"ความ คิดถึง" ก่อเกิดไออุ่นในดวงใจ

ให้หัวใจได้เผยอยิ้ม....เผลอยิ้ม อย่างคนฝันหวาน

แต่ทว่า..นี่คือฝัน.....ฝันในโลกที่กาลเวลากำลัง เดินไป.....เดินไป

สุขใดจะเทียมความคิดถึงถึง "ใครคนหนึ่ง" เล่า

"ใคร คนหนึ่ง" ... คนของความคิดถึง

รับรู้ถึงความคิดถึงที่หยิบยื่นให้ กันและกัน

รับรู้ถึงความห่วงใยที่หยิบยื่นให้กันและกัน

รับ รู้ถึงความรู้สึกที่หยิบยื่นให้กันและกัน

สัมผัสความคิดถึงของกัน และกัน

"ความคิดถึง" ณ เวลานี้เป็นความคิดถึงอันงดงาม

เชื่อ ว่า .. ต่อไปกับกาลเวลาข้างหน้า คงเป็นความคิดถึงอันงดงามเฉกเช่นเดียวกัน

ขอ ให้ในความรู้สึกของดวงใจ มีความคิดถึงร่วมกันตลอดไป.......

ความหมายของชีวิต


เราอาจจะหาความหมายของทุกสิ่งมาตลอดชีวิต.....
แล้ววันหนึ่งเรา ก็พบว่า……
เพียงแค่มีบางสิ่ง ชีวิตก็มีความหมายแล้ว
มนุษย์เกิดขึ้นมา ท่ามกลางความโดดเดี่ยว พร้อมด้วยหัวใจคนละ 1 ดวง
เมื่อ มนุษย์ 2 คนมาพบกัน เราจึงเรียนรู้ว่า 1 + 1 อาจจะยัง คงเท่ากับ 1
แต่ความโดด เดี่ยวนั้นหายไป ที่ เล็กๆ ขนาดไม่ใหญ่โตไปกว่ากำปั้น
ที่ทำให้เราอยู่ รวมกันบนโลกใบนี้อวัยวะที่สะกดด้วยอักษรง่ายๆ ใช้ หัวใจ ยังไงล่ะ
ความ รัก ที่ประทับใจขอเก็บไว้ในใจแล้วอมยิ้มนะ
ความรัก ที่ไม่ประทับใจขอเก็บไว้เป็นประสบการณ์
ความรัก ที่ทำเพื่อผู้อื่นเป็นความภูมิใจแบบเก็บไว้เอง
ความรัก ที่ทำเพื่อตัวเองนั่นไม่เรียกว่ารัก
ความรัก ที่คุณเจอในอดีตขอให้เป็นความทรงจำที่แสนดี
ความรัก ที่คุณเจอในปัจจุบันขอให้สมหวังกันทุกคน
ความรัก ที่คุณจะเจอ ในอนาคตให้อธิษฐานกันเอาเองนะ
ถ้าอ๊อกซิเจนทำชีวิตนี้ดำรงอยู่ได้
ความ รักก็ทำให้การมีชีวิตนั้นมีความหมายมากยิ่งขึ้น
เคยมั้ยที่จะมี คุณเคยมีคนแบบนี้ที่ไม่ ใช่พ่อแม่พี่น้องหรือยัง?
ตอบตัวเองให้ได้ว่าใคร
เคย มั้ยที่จะมี...คนให้อภัยคุณทุกอย่าง
เคยมั้ยที่จะมี...คนอยู่เคียงข้าง คุณเวลาที่คุณเสียใจ
เคยมั้ยที่จะมี...คนจดจำความเป็นคุณได้ทุกอย่าง
เคย มั้ยที่จะมี...คนยอมเสียสิ่งที่รักเพื่อคุณ
เคยมั้ยที่จะมี...คนเห็นคุณ สำคัญกว่าใครๆ
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่คุณอยู่ด้วยเฉย ๆ แล้วมีความสุข
เคย มั้ยที่จะมี...คนที่มั่นใจในคำว่ารักของคุณ
เคยมั้ยที่จะมี...ไม่อาย เมื่อเดินข้างคุณ แม้คุณหน้าตาไม่ดีก็ตาม
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่ทนคุณ ได้ไม่ว่า คุณจะด่า จะว่า เค้ายังไง
เคยมั้ยที่จะมี...คนรับได้ในสิ่งที่ คุณเป็นไม่ว่าจะมีคนมาว่าร้ายคุณยังไง
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่เห็นความ ผิดของคุณเป็นเรื่องที่ควรอภัย
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่คุณอยากตื่นมาแล้ว ก็เจอกันเสมอ
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่คุณคิดถึงเค้า แม้ว่าคุณไม่เหงาก็ตาม
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่คุณคิดถึงคนแรก เมื่อคุณทุกข์ใจ
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่คุณรู้ว่า เค้าช่วยให้คุณสบายใจได้
เคยมั้ยที่จะมี...คนแคร์คุณมากมาย ไม่ว่าคุณจะทำร้ายเค้า ยังไง
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่รับรู้ตัวตนที่แท้ จริงของคุณ
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่ยังรักคุณแม้คุณไม่เห็นความสำคัญของ เค้าเลย
ถ้าคุณเคยมีเค้าคนนี้อยู่จริง คุณควรถนอมเค้าไว้ให้ดี
ถ้าคุณ สูญเสียเค้าไปคุณเองที่จะเป็นคนเสียใจ
ความหมายของหัวใจ เราอาจจะหาความหมายของทุกสิ่งมาตลอดชีวิต
แล้ววันหนึ่งเราก็พบว่า เพียงแค่มีบางสิ่ง ชีวิตก็มีความหมายแล้ว

สารฟอกขาวในตะเกียบ


เวลารับประทานก๋วยเตี๋ยว ใคร ๆ ก็คงต้องใช้ตะเกียบในการรับประทาน แต่ทราบหรือไม่ว่า
ในตะเกียบนั้นมีสารฟอกขาวอยู่ด้วย วันนี้เกร็ดความรู้มีมาบอกกัน...
อันตรายจากสารฟอกขาวที่อยู่ในตะเกียบ เป็นชนิดเดียวกับสารฟอกขาวที่ใช้แช่ถั่วงอก
โดยสารฟอกขาวจะมีสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์เป็นส่วนประกอบ เมื่อโดนน้ำร้อนหรือของที่มีอุณหภูมิสูง
สารซัลเฟอร์ไดออกไซด์จะเปลี่ยนเป็นสารซัลฟูริค หรือสารชนิดเดียวกับในแบตเตอรี่รถยนต์
สารดังกล่าวจะละลายออกมาจากตะเกียบ ปะปนอยู่ในอาหารที่กินเข้าไป หากผู้ที่เป็นโรคหอบหืด
หรือคนแพ้ง่ายจะมีอาการทันที แต่หากร่างกายแข็งแรงสารเหล่านี้ก็จะสะสม ในร่างกาย ซึ่งการปนเปื้อน
ของสารจะละลายออก มาเมื่อตะเกียบถูกน้ำร้อนหรือความร้อน เช่น การ กินสุกี้ หรือหม้อไฟต่าง ๆ
แต่ถ้านำไปใช้กับอาหาร ที่ไม่ร้อนก็ไม่พบว่าสารฟอกขาวเจือปนออกมา
สำหรับอันตรายของสารฟอกขาวที่เข้าไปสะสมในร่างกายจะค่อย ๆ ทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำลง
และเกิดโรคต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าปกติ เพราะเมื่อร่างกายไม่มีภูมิต้านทาน ถ้าได้รับเชื้อต่าง ๆ จะไม่มีระบบ
การทำลาย และสิ่งต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกายได้ง่ายนั้น จะไปสะสมทำให้เกิดโรคอื่น ๆ ที่จะกระตุ้นให้เกิดโรค
มะเร็งได้
ดังนั้น หากต้องใช้ตะเกียบชนิดดังกล่าวในการกินของร้อน ๆ สามารถป้องกันได้ด้วยการแช่ในน้ำร้อน
ประมาณ 3-4 นาที แล้วเทน้ำทิ้งไป จากนั้นจึงนำตะเกียบมาใช้ได้ ส่วนตะเกียบชนิดไม้ไผ่แม้จะไม่มี
สารฟอกขาว แต่ต้องทำความสะอาดให้ดีและทำให้แห้งเพื่อไม่ให้เกิดเชื้อรา เพราะจะทำให้เกิดสารอัลฟา
ทอกซิน หรือสารก่อมะเร็งได้
ครั้งหน้าจะใช้ตะเกียบก็อย่าลืมทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อนนำมาใช้ จะได้ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

น้ำชา... กาแฟ ผลเสียผลดีต่อสุขภาพ


ในทางการแพทย์พบว่า เครื่องดื่มประเภทน้ำชากาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีประโยชน์เพราะสาร
คาเฟอีน ใน ชา กาแฟมีผลเสพติดอ่อนๆคือดื่มแล้วจะติด พอเวลาไม่ได้ดื่มจะหงุดหงิด มือสั่น ใจสั่น
สารคาเฟอีนนี้มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท ซึ่งนอกจากนี้ยังเป็นส่วนผสมของยาประเภท ลดไข้บรรเทาปวดอีกด้วย
ผู้ที่ได้รับคาเฟอีนมากเท่าไร ผลร้ายที่มีต่อร่างกายก็มีมากขึ้นเท่านั้น เมื่อคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกาย จะถูกดูดซึมอย่างรวดเร็วในกระเพาะอาหารหรือลำไส้ แล้วกระจายไปตามอวัยวะต่างๆ เช่นสมอง หัวใจ ตับ ปอด กล้ามเนื้อต่างๆ และระบบประสาทส่วนกลาง ร่างกายจะใช้เวลากว่า 48 ชั่วโมง ในการสลายคาเฟอีน
ถ้าร่างกายได้รับ คาเฟอีนจำนวนสูงประมาณ 3,000 - 10,000 มิลลิกรัม จะทำให้ตายในระยะอันสั้นได้ ถ้าเราดื่มกาแฟประมาณ 1/2 - 2 1/2 ถ้วย (50 - 200 มิลลิกรัม) ลดความเมื่อยล้าได้ประมาณครึ่งวัน หรือดื่มกาแฟขนาด 3 - 7 ถ้วย (200 - 500 มิลลิกรัม) ทำให้มือสั่น กระวนกระวายโกรธง่าย และปวดศรีษะ มีผลต่อหัวใจและเส้นเลือดคลายตัวหรือบีบรัดมากขึ้นเป็นบางแห่ง กระตุ้นกล้ามเนื้อหัวใจ อาจเพิ่มลดอัตราการเต้นของหัวใจ อันตรายต่อผู้ป่วยที่ดื่มกาแฟมากๆ จะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตายเป็นหย่อมๆ คาเฟอีนมีผลทำให้น้ำตาลในเลือดสูง ไตรกลีเซอร์ไรด์สูงกรดไขมันอิสระสูง จึงไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน หรือมีไขมัน ในเลือดสูง ฤทธิ์ของคาเฟอีนเพิ่มการหลั่งของกรดในกระเพาะ จึงไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่เป็นโรคไตไม่ทำงาน
ผู้ที่ดื่มกาแฟ น้ำชา หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนผสมอยู่ รวมถึงการใช้ยาที่มีคาแฟอีนผสมอยู่รวมถึงการใช้ยาคาเฟอีนจนติดเป็นนิสัย จึงมีระดับคงทนต่อฤทธิ์คาเฟอีนสูงขึ้น โดยที่คาเฟอีนจะมีฤทธิ์ต่อร่างกายน้อยกว่าปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการของประสาทตื่นตัว ปวดศีรษะ และปวดกระเพาะ ความทนทานนี้จะลดลงเมื่อมีอายุมากขึ้น การหยุดดื่มกาแฟจะมีผลทำให้ปวดศีรษะ กระวนกระวายโกรธง่าย และไม่สนใจ สิ่งแวดล้อม
สำหรับสตรีมีครรภ์นั้นไม่ควรดื่ม ชา กาแฟ โดยเด็ดขาด ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าคนเราควรได้รับคาเฟอีนไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเท่ากับประมาณ 2 ถ้วย ( คือ กาแฟ 1 ถ้วย ใส่ผงกาแฟสำเร็จรูป 2 ช้อนชา น้ำประมาณ 1 ถ้วย) เวลาที่เหมาะสมจะดื่มชากาแฟนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน บางคนดื่มตอนเช้าเพื่อให้ลำไส้กระปรี้กระเปร่า ถ่ายสะดวก แต่จะทำให้หิวเร็วกว่าปกติ เพราะกาแฟจะกระตุ้นการหลั่งของน้ำย่อยเพราะฉะนั้นไม่ควรดื่มกาแฟแทนอาหาร เช้า และ หันมาดื่มนมแทนจะดีกว่า ถ้าคนที่นอนหลับยาก หรือมีภาระกิจต้องตื่นแต่เช้า ก็ไม่ควรดื่มกาแฟหลังอาหารเย็นวันนั้น จะเห็นว่ากาแฟนั้นมีทั้งผลดีผลร้ายกับร่างกาย ดังนั้นผู้ที่ไม่ได้อยู่ในข่ายต้องห้าม ก็อาจดื่มเป็นประจำทุกวันได้ แต่ต้องกำจัด ปริมาณให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม

เพลงความรัก

10 เกร็ดความรู้เกี่ยวกับร้านข้างถนน


เกร็ดความรู้เพื่อความปลอดภัยของเพื่อนๆ และคนใกล้ตัวก็อยากให้เพื่อนๆช่วยๆกันบอกต่อๆกัน เพื่อความปลอดภัยของสังคมด้วยนะครับ เป็นคำบอกเล่าของเจ้าของร้านอาหารริมทางคนนึง ออกมาเผยความจริงให้รู้แก่พวกเรา ไว้เป็นเป็นเกร็ดความรู้ดีๆ

1.น้ำเปล่าที่ให้ดื่มคือน้ำก๊อก
2.ตะเกียบเก่าถูกๆ บางอันขึ้นรา
3.แก้วน้ำล้างแบบจุ่มๆ ไม่ใช้น้ำยา
4.ล้างจานแบบประหยัดน้ำสุดๆๆๆๆ
5.กระทะผัดซ้ำๆ นานๆล้าง สารก่อมะเร็ง
6.กระบวนการทำเนื้อสัตว์ต่างๆ ไม่ถูกอนามัย
7.น้ำมันเก่า ก่อมะเร็ง
8.ผัดกระเพราที่เพื่อนๆชอบกินกันมีผงชูรสเกือบ 1 ช้อนชาต่อจาน
9.น้ำปลา, น้ำส้มสายชูต่างๆ เอาของห่วยๆมาใส่ขวดยี่ห้อดีๆ
10.ข้าวที่ให้กินเป็นข้าวหอมมะลิปลอม